เวลาที่เราอยาก ลดน้ำหนัก คำแนะนำที่มักจะได้รับก็คือ “กินให้น้อยลง เคลื่อนไหวให้มากขึ้น” แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น บางทีคุณก็อยากทำแบบนั้นอยู่หรอก แต่มันกลับเป็นไปไม่ได้ เพราะมันยังมีอีกเหตุผล นอกเหนือจากการกินและการออกกำลังกายที่เรามักจะละเลยไป นั่นก็คือ “การนอนหลับ”
แล้วการนอนไม่พอส่งผลยังไงบ้าง..ต่อความพยายามในการ ลดน้ำหนัก ของเรา?
การนอนไม่พอ..ส่งผลต่อการสะสมไขมันของเรา
นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยชิคาโก ในสหรัฐฯ ระบุว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเรานอนไม่พอต่อเนื่องกันอย่างน้อย 4 วันก็คือ ความสามารถของร่างกายในการใช้อินซูลินอย่างเหมาะสมจะถูกรบกวน ทำให้ไขมันวนเวียนอยู่ในกระแสโลหิต และลงเอยด้วยการเก็บกักไขมันไว้ผิดที่ผิดทาง ซึ่งนอกจากจะทำให้เราอ้วนแล้ว ยังอาจเจอโรคอื่นๆ อย่างเช่นเบาหวานได้อีกด้วย
การนอนไม่พอ…ทำให้เราหิวมากขึ้น
ความหิวถูกควบคุมโดยฮอร์โมนสองชนิดในร่างกายเรา นั่นก็คือเลปติน (Leptin) ฮอร์โมนที่กดความอยากอาหาร และเกรห์ลิน (Ghrelin) ฮอรโมนที่เพิ่มความอยากอาหาร ซึ่งงานวิจัยพบว่า การนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง กดการทำงานของเลปติน และกระตุ้นเกรห์ลิน ทำให้เราหิวมากขึ้น นอกไปจากนี้ การนอนน้อยยังทำให้ระดับคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น คอร์ติซอลเป็นฮอร์โมนความเครียดที่เกี่ยวข้องกับการสะสมไขมัน และยังกระตุ้นการทำงานของสมองที่ทำให้เราอยากกินมากขึ้น เมื่อคอร์ติซอลมาเจอกับเกรห์ลินที่ถูกกระตุ้นขึ้นมาจากการนอนไม่พอ ก็ยิ่งทำให้เราเหมือนจะหิวอยู่ตลอดเวลา แม้จะเพิ่งกินอาหารมื้อใหญ่ไปก็ตามที
การนอนไม่พอ..ทำให้เรากินอาหารไม่ดี
การนอนไม่พอก็อาการเมาเหล้า ที่ทำให้สมองของเราไม่ปลอดโปร่งพอที่จะตัดสินใจอะไรยากๆ ได้ โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารที่ควรกิน หรือไม่ควรกิน ปกติคุณจะสามารถต่อสู้กับความปรารถนานี้ได้ แต่เมื่อสมองส่วน insular cortex อ่อนแอลง เนื่องจากการนอนไม่พอ ทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะตามใจตัวเองด้วยการกินอาหารที่ไม่ควรกิน
การนอนไม่พอ..ทำลายการออกกำลังกายของเรา
กล้ามเนื้อเป็นส่วนสำคัญในการลดน้ำหนัก เพราะมันช่วยเผาผลาญไขมัน แต่การนอนไม่พอเป็นศัตรูสำคัญของกล้ามเนื้อ นักวิทยาศาสตร์จากบราซิลพบว่า การนอนไม่พออย่างต่อเนื่องทำให้ความสามารถของร่างกายในการสังเคราะห์โปรตีนที่จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อลดลง
