เราอาจคิดว่าการนอน กรเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ แต่ถ้าจะสังเกต เด็กหลายคนเวลานอนก็จะส่งเสียง กรน เบาๆ ออกมาเหมือนกัน ซึ่งเสียงฟี้ๆ ของเจ้าตัวเล็ก ฟังดูก็น่ารักดี

 

แต่จากความน่ารักอาจกลายเป็นเรื่องน่ากลัวได้ ถ้าเจ้าตัวเล็กของเราเริ่มส่งเสียงกรนดังขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว เราสามารถพบปัญหาเด็กนอนกรนได้ในช่วงที่เด็กอายุหนึ่งปีขึ้นไป ซึ่งอาจมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ต่อมน้ำเหลืองรวมถึงต่อมทอนซิลและต่อมอะดีนอยด์โตขึ้น ส่งผลให้เกิดการอุดกั้นของทางเดินหายใจจนเกิดเสียงกรน หรือจากโรคภูมิแพ้ โรคระบบทางเดินหายใจ

เจ้าตัวเล็กที่อ้วนจ้ำม้ำดูน่ารัก

แต่เพราะน้ำหนักที่เกินมาตรฐาน กล้ามเนื้อที่หย่อนตัวในขณะหลับ ก็อาจไปกดทับทางเดินหายใจ ส่งผลให้นอนกรนได้เช่นกัน

และการที่เจ้าตัวเล็กนอนกรน ก็ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับเหมือนกับผู้ใหญ่ ซึ่งในเด็กเล็กนั้นอาจร้ายแรงกว่าด้วย เพราะการที่นอนหลับไม่สนิท หลับไม่ลึก หรือนอนหลับแบบไม่มีคุณภาพ จะส่งผลต่อการหลั่ง Growth Hormone จึงส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการตามวัยของเด็กตามไปด้วย

การนอนหลับไม่เพียงพอหรือหลับแบบไม่มีคุณภาพ

ยังทำให้เด็กตื่นมาแบบไม่สดชื่น รู้สึกอ่อนเพลีย งัวเงีย และอาจส่งผลต่อการเรียนรู้ สมาธิ ความจำ หรืออาจทำให้เด็กก้าวร้าวหรือซนกว่าปกติก็ได้

ในบางครั้งการนอนกรนอาจมีอาการหยุดหายใจในขณะหลับร่วมด้วย ซึ่งอาการนี้เกิดได้ทั้งกับผู้ใหญ่และเด็ก ส่งผลให้ออกซิเจนในเลือดลดลง หัวใจจึงทำงานหนักเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย หากปล่อยให้อาการนี้เกิดขึ้นนานๆ เด็กอาจมีอาการหัวใจโต และอาจรุนแรงถึงขั้นเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเสียชีวิตได้

การนอน กรน ที่เกิดจากต่อมอะดีนอยด์โต

เด็กมักจะอ้าปากเวลานอน และหายใจผ่านเจ้าออกทางปากมากกว่าทางจมูก ทำให้กระดูกเพดานปากโก่งสูง ส่งผลอาจทำให้เกิดฟันหน้ายื่นผิดรูปหรือฟันเหยินได้

เพราะฉะนั้นลองจับตาสัญญาณอันตรายเหล่านี้จากเจ้าตัวเล็กกันเอาไว้นะครับ ไม่ว่าจะเป็นการกรนเสียงดังและเป็นประจำ เสียงกรนที่ขาดๆ หายๆ เหมือนขาดอากาศเป็นช่วงๆ หรือมีอาการทีหน้าอกไม่ขยับขึ้นลงเป็นบางขณะ หรือไม่ก็หายใจจนอกบุ๋มหรือท้องโป่งเป็นประจำ

หากสังเกตเห็นสัญาณอันตราย หรือไม่แน่ใจว่าอาการกรนของลูกจะเข้าข่ายผิดปกติหรือเปล่า สามารถรับการปรึกษาจากแพทย์ได้เพื่อความแน่ใจ จะได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีและทันท่วงทีนะครับ

นอนกรน, สุขภาพเด็ก, เด็ก