January 19, 2018 SDN_Editorial

คำแนะนำจากแพทย์ผิวหนัง ใช้สเตียรอยด์อย่างถูกวิธี

โรคผิวหนังหลายชนิดมีสาเหตุมาจากการอักเสบของผิว การรักษาจึงจำเป็นต้องใช้ยาที่มีกลไกการออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ และสิ่งที่หลายๆ คนนึกถึงก็คงไม่พ้นยา “สเตียรอยด์” ที่ถือเป็นยาสารพัดประโยชน์ ในการรักษาโรคผิวหนัง ที่นอกจากจะลดการอักเสบ และยังลดอาการคัน จึงมีการใช้อย่างกว้างขวาง

 

ถึงแม้ว่าจะฟังดูเป็นยาที่ให้การรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยาสเตียรอยด์ก็อาจทำให้มีผลข้างเคียงที่รุนแรงได้หากใช้ไม่ถูกวิธี เราจึงมีคำแนะนำการใช้ยาสเตียรอยด์ หมอฟ้า ชลธิรศน์ จากแพทย์ผิวหนังประจำ See Doctor Now มาฝากกันครับ

 

ตัวอย่างโรคที่รักษาด้วยยาสเตียรอยด์

  • ภูมิแพ้ผิวหนัง Atopic dermatitis
  • สะเก็ดเงิน
  • ผื่นแพ้จากสาเหตุต่างๆ
  • ด่างขาว
  • เซบเดิม

ยาทาสเตียรอยด์ ใช้อย่างไร?

ในการใช้ยาสเตียรอยด์ควรใช้ภายใต้การพิจารณาและการดูแลของแพทย์จะดีที่สุด เพราะยาสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ และควรใช้ยาให้ถูกวิธีเพื่อการออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพ

  • ก่อนหลังทายาควรล้างมือให้สะอาด
  • ทาหลังอาบน้ำ ทั้งเช้าเย็น
  • สังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังที่ทาตลอดการรักษา

และที่สำคัญยาสเตียรอยด์มีความเข้มข้นและระยะเวลาในการใช้แตกต่างกัน ยายิ่งเข้มข้นมากยิ่งไม่ควรใช้นาน เพราะอาจทำให้มีผลข้างเคียง หากทาไประยะหนึ่งแล้วไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจดูอีกครั้งและถึงแม้ว่าโอกาสการแพ้ยาสเตียรอยด์พบได้ไม่บ่อยแต่ก็สามารถเกิดได้

 

ข้อควรระวังในการใช้ยาสเตียรอยด์

ยาสเตียรอยด์ถึงแม้จะเป็นยาทาแต่ก็สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิต และกดการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อในร่างกายได้ จึงไม่ควรทาเป็นบริเวณกว้าง ทางที่ดีไม่ควรทาเกินจากผิวบริเวณที่ต้องการรักษา และไม่ควรปิดทับบริเวณที่ทาด้วย Plastic Wrap หรือ Plaster เพราะจะเพิ่มการดูดซึม เว้นแต่เป็นการใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์

 

การใช้ยาสเตียรอยด์ในเด็ก

การพิจารณาการใช้ยาสเตียรอยด์ในเด็กควรให้แพทย์เป็นผู้สั่ง ผู้ปกครองไม่ควรใช้โดยพลการ เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วในเด็กจะเลือกใช้ยาทาสเตียรอยด์แบบเข้มข้นต่ำ และหากมีผลข้างเคียงที่ควรปรึกษาแพทย์

 

ความเข้มข้นของยาสเตียรอยด์

ความแรงอ่อน

  • 1-2% Hydrocortisone cream [H-cort]
  • 0.5%Prednisolone [Prenisil cream ]
  • ไม่ควรทาต่อเนื่องเกินสามเดือนเพื่อป้องกันผลข้างเคียง

ความแรงปานกลาง

  • Betamethasone dipropionate 0.05%  [Diprosone® Cream]
  • Triamcinolone acetonide 0.1% [ Arisocort A® 0.1% ,  0.1% TA cream ]
  • Mometasone furoate 0.1% [Elomet]
  • Betamethasone Valerate 0.1% [Betnovate]
  • Prednicarbae 0.1% [Dermatop]
  • ไม่ควรทาต่อเนื่องเกินสามเดือนเพื่อป้องกันผลข้างเคียง

ความแรงมาก

  • Clobetasol propionate 0.05% [Dermovate® cream]
  • Augmented betamethasone dipropionate 0.05% [ Diprotop® cream, ointment ]
  • Betamethasone dipropionate 0.05% [ Diprosone® ointment ]
  • Desoximetasone 0.25% [Topicort, Esterson]
  • ไม่ควรทาต่อเนื่องเกินสามสัปดาห์ เพื่อป้องกันผลข้างเคียง

สามารถปรึกษาการใช้ยาสเตียรอยด์ รวมถึงการใช้ยา และปัญหาเรื่องผิวหนังอื่นๆ ได้กับหมอฟ้า ชลธิรศน์ แพทย์ผิวหนัง ผ่านทางแอปพลิเคชั่น See Doctor Now ครับ

 

 

บรรณานุกรม

  • แพทย์หญิง ชลธิรศน์ ศรีเกษตรสรากุล, วิธีใช้สเตียรอยด์อย่างถูกวิธี, www.SkinAnswer.org, October 2 2014
  • ปรียากุลละวณิชย์,ประวิตร พิศาลยบุตร .Dermatology 2020: พิมพ์ครั้งที่1. กรุงเทพฯ:โฮลิสติก, 2555
  • JONATHAN D. FERENCE, PharmD, BCPS.Choosing Topical Corticosteroid .Jan 15 2009. http://www.aafp.org/afp/2009/0115/p135.html