การที่คนเรา ขาอยู่ไม่สุข ต้องขยับแข้งขยับขาอยู่ตลอดเวลา ฟังแล้วก็ไม่น่าเหมือนจะเป็นโรคอะไรใช่มั้ยครับ?
แต่จริงๆ แล้ว หากคุณมีอาการขาอยู่ไม่สุข อยากขยับแข้งขยับขาอยู่ตลอดเวลา หรือมีอาการปวดและคันบริเวณน่อง
ซึ่งเมื่อได้ขยับแข้งขยับขาหรือลุกขึ้นเดิน ก็จะหายไป และมักจะเกิดอาการแบบนี้ในช่วงเย็นๆ หรือตอนนอน จนทำให้นอนไม่ค่อยหลับ คุณอาจจะก็ไม่ได้แค่เป็นคนอยู่ไม่สุข แต่คุณอาจจะ “ป่วย” เป็นโรค “ขาอยู่ไม่สุข” หรือ Restless leg Syndrome เข้าแล้วล่ะครับ
อาการขาอยู่ไม่สุขที่พบกัน มีทั้งอาการปวดหนึบๆ เหมือนมีอะไรมาบีบรัดที่ขา เหมือนมีแมลงมาไต่ที่น่องหรือเท้า เท้ากระตุก ทำให้รู้สึกรำคาญหรือไม่สบายตัว แต่อาการก็จะบรรเทาลงเมื่อได้ลุกขึ้นขยับแข้งขาหรือเดิน อาการเหล่านี้อาจเป็นทุกวัน หรือเป็นๆ หายๆ ก็ได้ และนั่นก็ทำให้เรามักไม่รู้สึกว่าอาการพวกนี้เป็น “โรค” มันจึงไม่ค่อยได้รับวินิจฉัยหรือรักษา แต่จากสถิติพบว่าโรคนี้พบได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว ในกลุ่มผู้ที่มาตรวจรักษาอาการนอนไม่หลับ
โรคนี้เกิดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ส่วนใหญ่ในวัย 45 ปีขึ้นไป ทั้งที่ร่างกายแข็งแรงดี และในกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังบางโรค เช่น เบาหวาน โรคเส้นประสาทอักเสบ โรคโลหิตจาง แต่บางครั้งก็สามารถพบได้ในผู้หญิงตั้งครรภ์ในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ซึ่งเป็นอาการชั่วคราวที่จะหายไปเมื่อคลอดบุตร แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจกลายเป็นอาการเรื้อรัง รวมถึงอาจเป็นผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยาต้านเศร้า ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน หรือยาแก้แพ้ ก็ได้เช่นกันครับ
สาเหตุที่แน่นอนของโรคนั้นยังไม่สามารถทราบได้แน่ชัด แต่มีการศึกษาที่พบว่า อาการผิดปกติเช่นนี้เกิดจากการที่ร่างกายขาดสารสื่อประสาทที่เรียกว่า “โดพามีน (Dopamine)” ซึ่งสำคัญต่อการทำงานหลายอย่างของสมอง เช่น การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ และการนอนหลับ ซึ่งการที่ร่างกายมีธาตุเหล็กน้อย (เช่น ในคนที่เป็นโรคโลหิตจาง) ก็อาจส่งผลต่อร่างกายในการผลิตโดพามีนและการนำโดพามีนไปใช้
