เลือดกำเดาไหล เป็นกรณีที่เชื่อว่าแทบจะทุกคนต้องเคยพบในช่วงหนึ่งของชีวิต จนเราอาจมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่จริงๆ แล้วการมีเลือดออกทางจมูกแบบนี้ บางกรณีก็ถือเป็นภาวะฉุกเฉินนะครับ
เมื่อไหร่ที่ไม่ปกติ
เลือดกำเดาไหล หรือการมีเลือดออกทางจมูก คือภาวะที่มีเลือดออกจากโพรงจมูกทางส่วนหน้า หรือส่วนหลังของโพรงจมูก สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งพบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ แต่จะพบได้สูงในเด็กอายุ 2-10 ปี และในวันรุ่นถึงวัยกลางคน ส่วนมากจะไม่มีอันตรายร้ายแรงให้ต้องกังวล สามารถหยุดไหลได้เอง
แต่ก็มีบางกรณีซึ่งถือว่าเป็นกรณีฉุกเฉิน ที่ควรรีบไปพบแพทย์
- เมื่อได้รับอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บ มีแผล เช่นอุบัติเหตุทางรถยนต์และมีเลือดกำเดาไหลร่วมด้วย
- มีเลือดกำเดาไหลมากกว่าปกติ หรือมีเลือดไหลบริเวณส่วนอื่นของร่างกายด้วย
- เลือดกำเดาไหลแล้วรู้สึกหายใจลำบาก
- เลือดกำเดาไหลนานกว่า 20 นาที
เลือดกำเดาไหล ในเด็ก
ในเด็กอายุ 2-10 ปี จะมีอาการเลือดกำเดาไหลได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุเช่นกันครับ โดยเฉพาะอากาศหนาวหรืออุบัติเหตุเล็กน้อย ซึ่งหากสามารถหยุดได้เองก็ถือว่าไม่เป็นอะไร แต่ในบางกรณี ควรรีบพาไปพบแพทย์หากมีเลือดกำเดาไหลในสถานการณ์ต่อไปนี้
- มีเลือดไหลมาก และรู้สึกเวียนหัวหรืออ่อนแรง
- เลือดกำเดาไหลเพราะตกจากที่สูงหรือจากอุบัติเหตุอื่นๆ
- เลือดไหลไม่หยุด นานกว่า 10 นาที
เมื่อลังเลว่าควรไปพบแพทย์หรือเปล่า
การมีเลือดกำเดาไหลบ้างนานๆ ครั้งถือว่าเป็นเรื่องปกติ ยังไม่มีอะไรน่ากังวล แต่ถ้าหากมีปัญหาสุขภาพร่วมด้วย เลือดกำเดาไหลอาจเป็นสัญญาณอันตรายได้ แม้ว่าบางครั้งอาจจะดูไม่ได้ร้ายแรงก็ตาม ซึ่งควรไปพบแพทย์ เพื่อที่จะให้แพทย์จะช่วยหาสาเหตุ และทำการรักษาต่อไปได้ครับ
ในกรณีที่เริ่มใช้ยาบางชนิด และมีเลือดกำเดาไหลก็เช่นกันครับ เพราะอาจเกิดจากสาเหตุผิดปกติภายในร่างกาย หรือยาบางชนิดก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดกำเดาไหลง่ายและมากกว่าเดิม ซึ่งอาจจะไม่สามารถหยุดได้ด้วยตัวเอง แพทย์อาจต้องใช้เครื่องมือเพื่อช่วยให้เลือดหยุดไหล
แม้ว่าจะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่อาการที่มีเลือดไหลไม่ว่าจากอวัยวะไหนก็ตามของร่างกาย อาจทำให้เกิดเลือดคั่งได้ ถ้าหากว่ามีเลือดกำเดาไหลไม่หยุด หรือมีเลือดไหลจากเหงือก หรือจากอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาเป็นกรณีฉุกเฉินครับ
รวมถึงกรณีเหล่านี้เช่นกัน ไม่ว่าจะอยู่ช่วงไหนของอายุก็ควรรีบไปพบแพทย์ครับ คือ
- มีเลือดกำเดาไหลบ่อยครั้ง
- มีเลือดกำเดาไหลเพราะมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในจมูก
- เลือดกำเดาไหลอย่างหนักแม้ว่าได้รับอุบัติเพียงเล็กน้อย
- มีเลือดไหลจากอวัยส่วนอื่นด้วย เช่นที่เหงือก
- มีแผลฟกช้ำร่วมด้วย จากอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย
ถ้าหากเสียเลือดมาก ไม่ว่าจะจากเลือดกำเดาไหล หรือจากอวัยวะอื่นๆ และต้องการพบแพทย์อย่างฉุกเฉิน แนะนำว่าไม่ควรขับรถหรือเดินทางไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง ควรให้เพื่อนหรือครอบครัวเป็นผู้พาไปโรงพยาบาล หรือต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน โทรเรียกรถพยาบาล 1669 ก็ได้ครับ
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อมีเลือดกำเดาไหล
เมื่อเกิดเลือดกำเดาไหล คนส่วนใหญ่จะรีบเงยหน้าเพื่อให้เลือดหยุดซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ผิดนะครับ วิธีที่ถูกต้องให้จำว่ามี 4 ขั้นตอนหลัก ซึ่งสามารถใช้ได้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คือ
• บีบจมูก ตรงปีกจมูกทั้ง 2 ข้างเข้าหากัน โดยหนีบบริเวณผนังกั้นจมูกเอาไว้เพื่อกดจุดเลือดไหลออก เป็นเวลาประมาณ 5-10 นาที โดยต้องกดหรือบีบไว้ให้แน่น แล้วค่อยคล้ายออก
• นั่งหลังตรง ห้ามเอนตัวลงนอน เพราะการนั่งหลังตรงจะช่วยบังคับให้ปริมาณและความแรงของเลือดลดลงเพราะ ศีรษะอยู่สูง
• ก้มหน้าเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลลงคอ ซึ่งจะทำให้ระคายเคืองและสำลักเลือด เลือดจะออกมากขึ้น และเลือดอาจเข้าไปในปอดก่อให้เกิดปอดอักเสบตามมาได้
• อ้าปากเพื่อหายใจ ในระหว่างที่บีบจมูกอยู่
นอกจากนี้ อาจใช้ผ้าเย็น หรือน้ำแข็งห่อผ้าหรือใส่ถุงพลาสติก หรือเจลประคบเย็น (Cold pack) วางประคบบนสันจมูกเอาไว้ เพื่อให้ความเย็นช่วยทำให้หลอดเลือดหดตัว หรือประคบเย็นที่บริเวณหน้าผากและคอร่วมด้วยก็ได้ครับ
และเมื่อมีเลือดกำเดาไหลเกิดขึ้น นี่เป็นพฤติกรรมที่ก็ควรหลีกเลี่ยงด้วยเช่นกันครับ
- การสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองและทำให้จมูกแห้ง
- การพูด การไอหรือจามในขณะที่เลือดกำเดากำลังไหลอยู่
- ห้ามสั่งจมูกหรือแคะจมูก เพราะอาจทำให้เลือดที่แข็งตัวแล้วหลุดออกและเลือดไหลอีกครั้ง
ถ้าอาการเลือดกำเดาไหลของคุณเข้าข่ายกรณีฉุกเฉิน ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนในทุกกรณี แต่ถ้ามีความกังวลหรือลังเลใจกับอาการเลือดกำเดาไหลในบางกรณี แทนการหาข้อมูลด้วยตนเองทางอินเตอร์เน็ต ที่อาจทำให้เข้าใจผิดหรือสับสนได้ การปรึกษาแพทย์ผ่านทาง Telemedicine เป็นทางเลือกที่สามารถช่วยให้คำปรึกษาและข้อมูลที่ถูกต้องกว่า เพราะเป็นการปรึกษากับบุคลากรทางการแพทย์โดยตรงนะครับ
สนใจทดลองใช้ Telemedicine ลองโหลด See Doctor Now แอพพลิเคชั่น Telemedicine รายแรกของประเทศไทย ใช้ได้ทั้งระบบ iOS และ Android ให้บริการด้วยบุคลากรทางการแพทย์ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพถูกต้อง พร้อมพยาบาลวิชาชีพในการให้บริการเบื้องต้นแบบเดียวกับโรงพยาบาล
เมื่อเข้าถึงหมอกันได้ง่ายขึ้นแบบนี้ ก็อย่าฝากชีวิตไว้ในมือของ “หมอกูเกิล” กันต่อไปเลยนะครับ
Source; WebMD Medical Reference Reviewed by melinda Ratini, DO, MS on January 12, 2017