October 12, 2017 Editorial

ดับ ความโกรธ ก่อนที่มันจะทำลายเรา

ใครๆ ก็เคยโกรธ บางครั้งก็เป็นแค่ ความโกรธ เล็กน้อย แต่บางครั้งก็เป็นความโกรธเกรี้ยวรุนแรง

ความโกรธมักเกิดขึ้นเมื่อเรารู้สึกหงุดหงิด เจ็บปวด รำคาญ หรือผิดหวัง เป็นความรู้สึกตามปกติที่เกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคน

ความโกรธอาจทำร้ายเราหรือช่วยเราก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเรารับมือกับความโกรธอย่างไร การรับรู้ถึงความโกรธและแสดงออกอย่างเหมาะสม สามารถช่วยให้เราทำตามเป้าหมาย รับมือกับเรื่องฉุกเฉิน และแก้ปัญหาบางอย่างได้

แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นได้ ก็เมื่อเราไม่รับรู้และเข้าใจความโกรธของตัวเอง

การเรียนรู้ที่จะจัดการกับความโกรธ และการแสดงความโกรธออกมาอย่างเหมาะสมในทุกๆ สถานการณ์จึงเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อที่จะช่วยแก้ปัญหาของตัวเอง และทำให้เรายังคงสัมพันธภาพที่ดีกับคนรอบข้างไว้ได้ โดยไม่ถูกความโกรธทำลายลง

 

 

อันตรายของ ความโกรธ

ถ้าหากไม่จัดการกับความโกรธตั้งแต่เนิ่นๆ และปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นคนโกรธง่าย โกรธอย่างรุนแรงอยู่เสมอ ความโกรธสามารถนำไปสู่ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้าได้ และยังเพิ่มความเสี่ยงของการเจ็บป่วย เพราะความโกรธในระยะยาวมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพ เช่น ความดันโลหิตสูง ปัญหาหัวใจ ปวดศีรษะ ความผิดปกติของผิวหนัง และปัญหาทางเดินอาหาร ฯลฯ

 นอกจากนี้ หากควบคุมความโกรธไม่ได้ ก็อาจจะส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง หรือที่ร้ายแรงกว่านั้นความโกรธยังสามารถนำไปสู่ อาชญากรรม การล่วงละเมิด และพฤติกรรมรุนแรงอื่นๆ ได้

 ในบางคน การควบคุมความโกรธไม่ได้ หรือการแสดงความโกรธออกมาอย่างไม่เหมาะสม อาจเป็นอาการของความผิดปกติทางอารมณ์ โรคทางบุคลิกภาพ ปัญหาการใช้สารเสพ หรือปัญหาสุขภาพจิตอื่นได้เช่นกันครับ

 

 

จัดการความโกรธ…ก่อนที่จะสายไป

• เมื่อรู้สึกโกรธ ให้หายใจลึกๆ และพยายามคิดบวก ทำซ้ำจนกว่าความโกรธจะลดลง

 • ถึงแม้การแสดงความโกรธออกไป จะเป็นเรื่องดีกว่าการเก็บความโกรธเอาไว้ แต่ก็ควรต้องแสดงออกอย่างถูกต้อง ชัดเจน และใจเย็น การระเบิดความโกรธจะเครียดและส่งผลต่อระบบประสาท ระบบหัวใจ และหลอดเลือด อาจทำให้ปัญหาสุขภาพแย่ลงได้

 • ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อปรับอารมณ์ และปลดปล่อยความตึงเครียดและความโกรธ

 • หลีกเลี่ยงการใช้ยาเสพติด หรือดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป เพราะอาจทำให้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกได้

 • เมื่อรู้สึกโกรธมาก พยายามหาทางระบายความโกรธออกอย่างเหมาะสม เช่นพูดความรู้สึกที่แท้จริงออกมาอย่างใจเย็น ไม่ก้าวร้าว

 • จดบันทึกความโกรธไว้ในขณะที่กำลังโกรธ จะทำให้เห็นความโกรธของตัวเองได้ชัดขึ้น และมีสติมากขึ้น

 • ลองเปลี่ยนมุมมอง หาทัศนคติใหม่ๆ ให้แก่ชีวิต หรือหาอะไรใหม่ๆ ทำ

 • เรียนรู้ที่จะผ่อนคลาย รู้จักที่จะหัวเราะกับความผิดพลาดของตัวเอง และมองสถานการณ์ต่างๆ ด้วยอารมณ์ขัน

 • ฝึกทักษะการฟัง การฟังสามารถช่วยในเรื่องการสื่อสาร และทบทวนสิ่งที่ได้ยิน แล้วลองมองในมุมของคนพูดดูบ้าง วิธีนี้สามารถช่วยแก้ไขความเข้าใจผิด ที่อาจนำไปสู่ความโกรธได้

 • หาการสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อน พูดคุยถึงความรู้สึก และพยายามแก้ไขปัญหาพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของตัวเอง

 • เรียนรู้ที่จะแสดงความรู้สึกออกมาอย่างใจเย็น ตรงไปตรงมา แต่ไม่ก้าวร้าว ไม่เอาแต่แก้ตัว หรือป้องกันตัวเอง ที่จะนำไปสู่การปะทะอารมณ์จนเกิดความโกรธ

 • อ่านหนังสือเกี่ยวกับการจัดการความโกรธ หรือหากไม่สามารถจัดการได้เอง ควรขอความช่วยเหลือจากนักบำบัดมืออาชีพ

 

 

อย่าปล่อยให้ความโกรธกลายเป็นปัญหาของชีวิต

 เมื่อรู้สึกว่าควบคุมความโกรธไม่ได้ และความโกรธเหล่านั้นเริ่มส่งผลเสียต่อชีวิต และความสัมพันธ์กับผู้อื่น ทางออกที่ดีคือการขอช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ไม่ว่าจะเป็นจิตแพทย์ นักจิตวิทยาคลินิก หรือที่ปรึกษาด้านจิตใจ เพื่อเรียนรู้วิธีการเปลี่ยนความคิด และหาทางจัดการกับความโกรธได้อย่างเหมาะสม

 และหากคุณไม่พร้อมที่จะเดินทางไปพบผู้เชี่ยวชาญแบบตัวต่อตัว เทคโนโลยี Telemedicine ของ See Doctor Now สามารถช่วยให้คุณได้พบผู้เชี่ยวชาญได้จากที่ส่วนตัวของคุณ ในเวลาที่คุณต้องการ 

และเรามีทั้งนักจิตวิทยาคลินิก และที่ปรึกษาทางด้านจิตใจ ซึ่งพร้อมจะช่วยคุณแก้ปัญหาจัดการกับความโกรธ หรือปัญหาสุขภาพใจอื่นๆ รอช่วยเหลือคุณอยู่ทุกเมื่อนะครับ

 

 

Source: https://www.webmd.com/mental-health/anger-management#1