เป็นหวัดแต่อยากไป ออกกำลังกายอย่างที่เคยทำเป็นประจำ ควรจะไปหรือไม่ไปดี?
แน่นอนว่า ถึงแม้การออกกำลังกายอาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราคิดถึงในช่วงที่เป็นหวัด และก็เป็นเรื่องจริงที่ว่า อาการเจ็บป่วยทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดมากพออยู่แล้ว (หมอจึงมักจะแนะนำให้เราพักผ่อนเยอะๆ ไงล่ะ) การออกกำลังกายก็อาจจะไม่ใช่ไอเดียที่ดีนัก
แต่ในบางกรณี การออกกำลังกายเบาๆ ถึงปานกลาง อาจช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้นะ
นพ.ริชาร์ด เบสเซอร์ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Tell Me the Truth, Doctor: Easy-to-Understand Answers to Your Most Confusing and Critical Health Questions บอกเช่นนั้น โดยคุณหมอเบสเซอร์ให้แนวทางเอาไว้ว่า ให้ใช้ “คอ” เป็นจุดหลักในพิจารณา นั่นก็คือ ถ้าอาการของเราเกิดอยู่แค่ในระดับเหนือคอขึ้นไป คือมีอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล การออกกำลังเบาๆ ให้เหงื่อออกเล็กน้อย ก็ถือว่าปลอดภัย แต่ถ้ามีอาการไข้ร่วมด้วย ก็ไม่ควรออกกำลังกาย
นอกจากการออกกำลังกายด้วยการเดินแล้ว การออกกำลังกายอีกอย่างหนึ่งที่เหมาะสำหรับช่วงเป็นหวัดก็คือโยคะ เนื่องจากในช่วงที่เจ็บป่วยร่างกายมักจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาเพื่อต่อสู้กับอาการติดเชื้อ การออกกำลังกายที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดอย่างเช่นโยคะ จึงอาจช่วยในเรื่องนี้ได้ อีกทั้งการยืดเหยียดร่างกายเบาๆ ก็อาจช่วยผ่อนคลายอาการปวดเมื่อยที่เกิดจากหวัดได้
แต่สำหรับผู้ที่นิยมออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนัก ช่วงที่เป็นหวัดควรจะงดก่อน เพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอในช่วงนี้ อาจทำให้คุณเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อได้ง่าย และการออกแรงกล้ามเนื้อเพื่อยกน้ำหนัก ก็อาจทำให้อาการปวดศีรษะและปวดไซนัสรุนแรงขึ้นได้ด้วย
นอกจากนี้ การออกกำลังกายอะไรก็ตามที่หนักเกินไป ก็เป็นเรื่องที่ไม่แนะนำให้ทำในระหว่างเป็นหวัด แม้จะยังไม่มีงานวิจัยที่ศึกษาเรื่องผลกระทบของการออกกำลังกายหนักๆ ในระหว่างเป็นหวัดโดยตรง แต่มีงานวิจัยบางชิ้นที่บ่งชี้ว่าการออกกำลังอย่างหนักส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของเรา อย่างเช่นงานวิจัยในปี 2007 ในวารสาร Journal of Applied Sciences ซึ่งรายงานว่าการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอาจลดต่ำลงได้ในช่วง 24 ชั่วโมงหลังการออกกำลังกายอย่างหนักและต่อเนื่องยาวนาน (มากกว่า 1.5 ชั่วโมงขึ้นไป)
และถึงแม้จะไม่มีงานวิจัยว่า การออกกำลังกายช่วยให้หวัดหายเร็วขึ้นได้ แต่ก็มีงานวิจัยจำนวนมากที่ชี้ว่าคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำมีแนวโน้มที่จะป่วยน้อยกว่าในภาพรวม
