September 16, 2017 Editorial

โลกที่เปลี่ยนไปของผู้ป่วย โรคซึมเศร้า

“ได้กลับมายิ้มอีกครั้ง กลับมากินข้าวแล้วรู้สึกอร่อย ได้นอนหลับสนิท นอนแล้วรู้สึกสบาย เหมือนว่าได้พักผ่อนจริงๆ แบบที่ไม่ได้ทำมานาน ฟังดูเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันรู้สึกดีมาก รู้สึกว่าความมีชีวิตค่อยๆ กลับมาแล้ว” 

นี่เป็นความรู้สึกของผู้ป่วย โรคซึมเศร้า คนหนึ่ง ที่พูดถึงชีวิตและความรู้สึกของเธอในระหว่างการได้รับการรักษา

จริงๆ แล้วไม่ง่ายเลย กว่าที่เธอจะรู้สึกอย่างนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความรู้สึกที่คนส่วนใหญ่อาจมองเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวัน แต่ไม่ใช่สำหรับผู้ที่ป่วยโรคซึมเศร้า หรือผู้ป่วยโรคทางอารมณ์อื่นๆ ที่เกิดจากสารเคมีในสมองทำงานผิดปกติ

​การเปลี่ยนแปลงของผู้เป็นโรคซึมเศร้าท่านนี้เปลี่ยนไปอย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป แต่เมื่อเป็นแล้ว ก็เรียกได้ว่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือโดยสิ้นเชิง (ในบางคน ความเปลี่ยนแปลงนี้ก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับบุคลิก และปัจจัยรอบข้าง)

“จากเป็นคนชอบพูด ชอบคุย ชอบออกไปไหนมาไหนกับเพื่อน ดูหนัง ฟังเพลง ทุกอย่างมันหายไป
เราไม่สนใจ ไม่รู้สึกอะไรกับของพวกนั้นเลย ไม่อยากฟังเพลง ไม่อยากดูหนังอีก ที่แย่กว่านั้นคือพอไปฟังก็รู้สึกแย่ลงกว่าเดิม ไม่สนุกด้วยเลยสักนิด ยิ่งฟังยิ่งอยากจะร้องไห้ แล้วความสนใจอย่างอื่นก็ค่อยๆ หายไปด้วย
จนวันนึงรู้สึกเฉยกับทุกสิ่งไปหมด ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากพูดกับใคร ข้าวก็ไม่อร่อย รู้สึกไม่อยากกิน ไม่รู้จะกินไปทำไม อยากจะนอนแล้วไม่ต้องทำอะไรอีก แต่ก็นอนไม่หลับหรอก นอนมองเพดานไปอย่างนั้น
เรื่องเศร้าก็มาจากไหนไม่รู้เต็มไปหมด มองปลาในอ่าง เห็นฝนตกก็เศร้าไปหมดแล้ว นั่งร้องไห้อยู่คนเดียวในห้องอยู่อย่างนั้น ร้องจนเหนื่อย แต่ก็ยังร้องออกมาได้เรื่อยๆ หลายวันมาก เพราะไม่รู้จะทำยังไง
จนมันเหนื่อย เหนื่อยกับตัวเอง ถามตัวเองว่าทำไมต้องมาเป็นอย่างนี้ ไม่อยากเป็นอย่างนี้แล้ว ”

นั่นทำให้ผู้ป่วยตัดสินใจไปหาหมอ และเข้าสู่กระบวนการรักษา ซึ่งเป็นการรักษาด้วยการกินยา เพื่อปรับให้สารเคมีให้สมองกลับมาทำงานอย่างปกติ ร่วมกับการบำบัดทางจิตใจ โดยการคุยกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาไปพร้อมๆ กัน เพื่อคุยลึกลงไปถึงปัญหาทางจิตใจ และสาเหตุของปัญหาต่างๆ และช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหาเหล่านั้น ซึ่งการรักษาต้องใช้เวลา และต้องมีการรักษาอย่างต่อเนื่อง

วันนี้ผู้ป่วยรายนี้ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการรักษา และก็ดูเหมือนว่าอาการของเธอกำลังดีขึ้นตามลำดับ

“ตอนนั้นคุยกับเพื่อน แล้วเพื่อนก็เล่นมุก เป็นมุกโง่ๆ อันนึง แต่เรายิ้มออกมาได้ แค่ยิ้มแค่นั้น กินข้าวแล้วรู้สึกถึงรสชาติ รู้สึกว่าข้าวมันนุ่ม หมูมันกรอบ เพลงนี้ซาวด์ดี เพลงนั้นนักร้องห่วยแตก ความรู้สึกเหล่านี้มันค่อยๆ กลับมา มันคือความรู้สึกมีชีวิตอ่ะ มันกลายเป็นความสุขเล็กๆ ไม่ใช่แบบไม่รู้สึกอะไรเหมือนเดิมแล้ว”

การตื่นนอน ได้ยิ้มหรือได้หัวเราะกับคนรอบตัว หรือกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การกินข้าวหมดจาน ได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม หรือแม้กระทั่งต้องอดนอนบ้างเพื่อทำงาน หรือดูซีรีส์ที่ชอบ รู้สึกรัก รู้สึกโกรธ รู้สึกเหนื่อย รู้สึกมีความหวัง หรือแม้กระทั่งมีเรื่องราวให้ต้องเศร้าบ้างในบางครั้ง

ความรู้สึกทั้งหมดเหล่านี้ พฤติกรรมเดิมๆ ซ้ำๆ ในทุกวันที่อาจดูน่าเบื่อ แต่ทั้งหมดนั่นก็หมายถึงชีวิตหนึ่งที่กำลังสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างสวยงาม

อย่าลืมสำรวจความรู้สึกของตัวเอง และความรู้สึกของคนรอบข้างของคุณให้ดี ให้รอยยิ้มและพลังยังคงอยู่กับเราไปในทุกๆ วันนะครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง :

9 สัญญาณไม่น่าเชื่อที่บอกว่าคุณอาจเป็น “โรคซึมเศร้า”

, ,