ถึงทุกวันนี้ “โรคซึมเศร้า” กลายเป็นปัญหาของสุขภาพจิต ที่หลายคนเริ่มตื่นตัวกับมันมากขึ้นแล้ว แม้จะยังมีหลายคนที่ยังไม่เข้าใจถึงโรคนี้อย่างถ่องแท้ แต่จำนวนของผู้ที่เข้าสู่การรักษาเยียวยาอย่างจริงจัง..ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
กระนั้นก็ตาม ยังมีปราการหลายอย่างที่ขวางกั้นเราจากการรักษาเยียวยาทางจิตใจเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่าย หรือความสามารถในการเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญในการรักษาอย่างแท้จริง
แต่มีงานวิจัยชิ้นใหม่ในสหรัฐฯ ที่ชี้ว่า ทางเลือกของการใช้โปรแกรมการบำบัดเยียวยาทางออนไลน์ สามารถช่วยคนที่มีอาการซึมเศร้าแบบอ่อนๆ หรือปานกลางได้
โดย นพ.ชาร์ลส์ โคแรนสกี้ แพทย์ประจำบ้านด้านจิตเวช (psychiatry resident) จากมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์/ เชพเพิร์ด แพรทท์ (University of Maryland/Sheppard Pratt) ในเมืองบัลติมอร์ และทีมงานวิจัย ได้รีวิวผลของการศึกษา 14 ชิ้น ที่ตีพิมพ์ระหว่างปี 2005 และ 2015 ซึ่งนำเสนอรูปแบบต่างๆ ของการบำบัดความคิดและพฤติกรรม (cognitive behavior therapy) สำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ อีเมล์ หรือการพูดคุยทางออนไลน์กับนักบำบัด
การศึกษาแต่ละชิ้นมีจำนวนผู้เข้าร่วมต่างกันไป ตั้งแต่ 45 ถึงเกือบ 400 คน และโดยเฉลี่ย 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วม อยู่ร่วมในโปรแกรมจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์
ผลจากการรีวิวชี้ว่า มันมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในการลดอาการซึมเศร้า ทำให้หลังจากที่โปรแกรมการบำบัดจบลง ผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้าแบบปานกลางหรือแบบอ่อนๆ มีอาการซึมเศร้าลดลง หรือไม่มีอาการซึมเศร้าเลย
อย่างไรก็ตาม มันยังมีข้อจำกัดและกระทั่งความเสี่ยงจากการบำบัดทางออนไลน์ สำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรง อย่างเช่นมีความคิดฆ่าตัวตายร่วมด้วย ซึ่งในกรณีนี้ จะไม่แนะนำให้รับการบำบัดทางออนไลน์โดยสิ้นเชิง
แต่ นพ.โคแรนสกี้ ก็ชี้ว่า การบำบัดทางออนไลน์ช่วยเติมช่องว่าง จากการขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพทางจิต และช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงการบำบัดเยียวยาได้ที่บ้านของตัวเอง ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่ง ดร.แรนนา พาเรกห์ ผู้อำนวยการฝ่ายความเท่าเทียมและความหลากหลากทางด้านสุขภาพของสมาคมจิตเวชอเมริกัน (American Psychiatric Association) ก็เห็นด้วยว่า ตราบเท่าที่มันเป็นมาตรฐานการรักษาแบบเดียวกับการรักษาแบบตัวต่อตัวทั่วไป การรักษาเยียวยาผ่านทางออนไลน์ก็ถือเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ สำหรับผู้ที่มีอาการแบบอ่อนๆ หรือปานกลาง และไม่มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย
