September 15, 2017 Editorial

เช็คตัวเอง คุณกำลังกลัว หรือวิตกกังวลมากเกินไปรึเปล่า?

เป็นเรื่องปกติที่คนเราจะมีความวิตกกังวล หรือกลัวในบางสิ่งบางอย่าง แต่ถ้ามันเกิดแทบจะตลอดเวลา หรือเกิดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นพิเศษ ความรู้สึกเหล่านั้นก็อาจไม่ปกติซะทีเดียว แต่อาจเป็นความผิดปกติบางอย่างของจิตใจ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในหลายรูปแบบ เช่น ความรู้สึกหวาดกลัวในเผชิญหน้าทางสังคมบางอย่าง หรือความวิตกกังวลอย่างหนักเกี่ยวกับสุขภาพ การงาน หรือครอบครัว

ความกลัวหรือวิตกกังวลที่ระดับที่ไม่ปกติมีได้หลายแบบ มาลองเช็คกันดูหน่อยว่า ความกลัวหรือวิตกกังวลของคุณนั้นเป็นในเรื่องใด และมันยังอยู่ในระดับที่สามารถรับมือได้เอง หรือต้องอาศัยความช่วยเหลือจากมืออาชีพแล้ว?

โรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized anxiety disorder)

โรควิตกกังวลทั่วไป (Generalized anxiety disorder)

คือความกลัวเกี่ยวกับเรื่อง่ายๆ และปกติธรรมดาของชีวิตประจำวัน โดยที่บางครั้งอาจจะดูไม่มีเหตุผลหรือแรงกดดันใดๆ เลย เช่น เรื่องเงิน สุขภาพ  ครอบครัว หรือการทำงาน แต่ถ้าหากคุณมีความวิตกจริต จนถึงขั้นที่มักจะคิดหรือคาดการณ์ถึงสิ่งเลวร้ายที่สุดก่อน แม้ว่าเรื่องนั้นๆ จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ไม่น่าจะต้องกังวลก็ตาม และเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมได้ความกลัวเหล่านี้ได้ คุณก็อาจก้าวข้ามความวิตกจริตปกติของคนธรรมดาไปแล้วก็ได้

เมื่อคุณไม่สามารถควบคุมความวิตกจริตเหล่านี้ได้ จนเริ่มส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จนกระทั่งส่งผลไปยังร่างกาย ทำให้มีอาการต่างๆ อย่างเช่น รู้สึกอ่อนล้ามาเป็นพิเศษ ปวดหัว คลื่นไส้ กล้ามเนื้อเกร็ง ปวดกล้ามเนื้อ กลืนไม่ลง ท้องเสีย หายใจไม่ออก รวมทั้งส่งผลต่ออารมณ์ด้วย อย่างเช่นทำให้ไม่มีสมาธิ หงุดหงิด จิตใจไม่สงบ นอนไม่หลับ

 

 

กลัวการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder)

กลัวการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder)

การกลัวการเข้าสังคม มีอาการคล้ายกับมีความอาย แต่มันค่อนข้างต่างกันสิ้นเชิง เพราะคนที่กลัวการเข้าสังคมในระดับที่ไม่ปกติ จะไม่พยายามเข้าไปมีส่วนร่วมกับสังคม หรือสถานการณ์ต่างๆ เลย เพราะกลัวว่าจะทำเรื่องขายหน้า หรือน่าอับอายต่อหน้าคนอื่น ซึ่งสามารถเกิดได้ตั้งแต่เด็กๆ บางคนเมื่อโตขึ้นอาการก็อาจจะหายไปเองได้ ช่วงวัยรุ่นตอนต้นก็เป็นอีกช่วงวัยที่พบอาการผิดปกติแบบนี้ได้มาก บางคนแม้มีอายุมากแล้ว ก็ยังอาจมีอาการของโรคนี้ได้เช่นกัน

ความกลัวการเข้าสังคมสามารถเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต ทำให้ขาดประสบการณ์ในหลายๆ เรื่อง และทำให้รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ ไร้อำนาจ และมีความนับถือตนเองต่ำ ซึ่งสารถทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาได้อีกในระยะยาว หากไม่ได้รับการเยียวยา

อาการของโรคหลักๆ ก็คือ มีความกลัวอย่างฝังลึกว่าจะโดนจ้องมอง หรืออาจจะโดนวิจารณ์ มีความกลัว กังวล เครียดเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ทางสังคมที่ไม่คุ้นเคย ประหม่าเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ทางสังคมใหม่ๆ และกลัวว่าจะมีคนรู้ถึงความประหม่านี้ และมักจะกังวลเมื่อต้องอยู่ในที่สาธารณะคนเดียว หรือประหม่าเมื่อต้องไปไหนมาไหนคนเดียว

 

 

โรคแพนิค (Panic Disorder)

โรคแพนิค (Panic Disorder)

โรคนี้มีความแตกต่างจากโรควิตกกังวลทั่วไป ตรงที่ความวิตกกังวล หรือความกลัวอย่างรุนแรง จะเกิดขึ้นอย่างจู่โจม หรือเกิดตื่นตระหนก (Panic) ขึ้นอย่างทันทีโดยไม่คาดคิด มักจะเกิดขึ้นมาเองโดยไม่ทราบสาเหตุ สามารถเกิดขึ้นที่ไหน และเมื่อไหร่ก็ได้ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาแม้ในขณะที่หลับ อาการแต่ละครั้งอาจจะเป็นอยู่ไม่นานก็หายไป แต่อาการจะกำเริบซ้ำๆ ได้อีกเป็นครั้งคราว จนทำให้ผู้ที่เกิดอาการนี้กลัวว่าตัวเองจะเสียชีวิต แต่ถ้าหากได้รับการรักษาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ก็จะสามารถช่วยให้ดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข

บางรายอาจมีอาการตื่นตระหนกแบบนี้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือบางรายที่เป็นมากก็อาจจะเป็นวันละหลายๆ ครั้ง โดยจะมีอาการทางร่างกายคือ ใจสั่น หัวใจเต้นแรง มือสั่นหรือตัวสั่น เหงื่อแตก หายใจติดขัด หายใจไม่อิ่ม หรือแน่นในหน้าอก คลื่นไส้ ไม่สบายท้องหรือปั่นป่วนในท้อง รู้สึกมึนงง วิงเวียนศีรษะ โคลงเคลง หรือรู้สึกว่าตัวเองแปลกไป เช่น รู้สึกหนาวสั่น หรือร้อนวูบวาบไปทั้งตัว จนกลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้ หรือกลัวว่าตัวเองจะเป็นบ้า และกลัวว่าจะเสียชีวิต

อาการทางกายบางอย่าง เช่น ใจสั่น ปวดหัว นอนไม่หลับ อาจคล้ายกับที่เกิดในผู้เป็นโรควิตกกังวลทั่วไป แต่มักจะมีอาการรุนแรงกว่า

ผู้มีอาการนี้มักจะพยายามหลีกเลี่ยงวัตถุ หรือสถานการณ์ที่เข้าใจว่าเป็นสาเหตุของการเกิดอาการ เช่น หากคิดว่าสถานที่ซึ่งมีผู้คนมากๆ ทําให้หายใจไม่ออกและเจ็บ แน่นหน้าอก ก็จะพยายามหลีกเลี่ยงการไปตลาด ห้างสรรพสินค้า หรือที่ใดก็ตามซึ่งมีผู้คนหนาแน่น แต่คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคนี้ มักจะเข้าใจว่าตัวเองเป็นโรคที่เกี่ยวกับโรคลม จึงหันมาพึ่งอะไรก็ตามที่คิดว่าจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ เช่น ยาดม ยาหอม  หรือบางคนก็คิดว่าเป็นเพราะไม่ได้กินอาหารมื้อเช้า จึงเปลี่ยนเป็นกินอาหารเช้าทุกวัน หรือจะต้องมีคนไปเป็นเพื่อนเสมอเมื่อออกจากบ้าน เป็นต้น

 

 

กลัวการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder)

โรคกลัวชุมชน (Agoraphobia)

“อะโกรา (Agora)” เป็นชื่อของตลาดใหญ่ในสมัยโบราณ อะโกราโฟเบีย (Agoraphobia) จึงเป็นใช้คำที่เรียกอาการของการกลัวที่ชุมชน สถานที่โล่ง หรือสถานที่ซึ่งรู้สึกไม่คุ้นเคย โดยส่วนใหญ่จะเป็นที่สาธารณะ เช่น สนามกีฬา สถานีรถไฟใต้ดิน หรือห้างสรรพสินค้า เนื่องจากเป็นที่ซึ่งกว้างใหญ่ ผู้คนเยอะ ทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้ยาก รวมถึงคิดว่าเป็นที่ซึ่งไม่สามารถได้รับความช่วยเหลือได้เมื่อมีอันตราย

อาการของผู้เป็นโรคกลัวชุมชนก็คือ กลัวว่าจะไม่ได้รับความช่วยเหลือเมื่อมีปัญหาเวลา อยู่ในที่สาธารณะซึ่งโล่งแจ้งและมีคนเยอะๆ จนเกิดความวิตกกังวลอย่างรุนแรง ทำให้คนๆ นั้นไม่กล้าอยู่คนเดียว ไม่กล้าที่จะไปไหนมาไหนตามลำพัง

หรือในกรณีที่รุนแรง ก็อาจถึงขั้นไม่กล้าที่จะออกไปนอกบ้าน หรือนอกพื้นที่ซึ่งตัวเองมีความคุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย และจำกัดตัวเองอยู่แค่ในสถานที่เหล่านี้เท่านั้น

 

โรคกลัว (Phobias)

โรคกลัว (Phobias)

เราทุกคนก็ล้วนมีสิ่งที่เรากลัว อย่างเช่น แมงมุม ความสูง หรือกลัวหมอฟัน แต่คนส่วนใหญ่ก็จัดการกับความกลัวเหล่านี้ได้ แต่เมื่อคนเรากลัวอย่างใดอย่างหนึ่งมาก จนรู้สึกว่าส่งผลต่อชีวิต ก็อาจเข้าข่ายของการเป็น “โรคกลัว (Phobias)” ได้ครับ

อาการคือมีความกลัวอย่างไร้เหตุผล เมื่อเห็น อยู่ใกล้ หรือได้ยินถึงสิ่งนั้นๆ แล้วชวนให้รู้สึกไม่สบายตัว ไม่สบายใจ หรือการกลัวอะไรเล็กๆน้อยๆ ทั้งที่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้มีอันตราย ซึ่งโรคนี้บางคนฟังแล้วอาจดูไร้สาระ แต่จริงๆแล้วสามารถกระทบทั้งอารมณ์และจิตใจของผู้ที่เป็นได้

 

เห็นมั้ยครับว่า ความกลัวหรือความวิตกกังวลของคนเรานั้น เกิดขึ้นได้หลายรูปแบบแต่ก็ล้วนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเมื่อเช็คอาการดูแล้วว่า คุณเข้าข่ายอย่างใดอย่างหนึ่งเหล่านี้ และไม่สามารถที่จะรับมือกับมันได้ด้วยตัวเอง การปรึกษาพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาคลินิก จะสามารถช่วยคุณในการรับมือกับมันได้ครับ

และหากคุณไม่สะดวกในการออกไปข้างนอกเพื่อพบกับผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยี Telemedicine สามารถช่วยให้คุณได้ปรึกษาพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญได้ในบ้านของคุณเอง และยังเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งทุกคนสามารถไว้วางใจได้ครับ

สนใจในบริการ Telemedicine สามารถสอบถามได้ผ่านแอพพลิเคชั่น See Doctor Now เรามีพยาบาลวิชาชีพรอให้คำแนะนำ และช่วยเหลือคุณในเบื้องต้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายครับ